วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560

นวนิยายคืออะไร

ความหมายของนวนิยาย     
          นวนิยาย ในภาษาอังกฤษคือ Novel เป็นนิยยายที่ให้ความสนุกความบันเทิงเป็นนิยายอ่านเล่น จะขอยกประวัติที่มาของคำว่ Novel ดังนี้  Novel หรือ Novella ในภาษาอิตาเลียน คำนี้ใช้เป็นครั้งแรกเพื่อเรียกนวนิยายอย่างใหม่ของบอกาจิโอ (Boccaio) ที่แต่งเรื่อง เดคาเมรอน (Decameroa) ซึ่งแต่งขึ้นราว ค.ศ. 1338-1340 การที่เรื่องเดคาเมรอน ได้รับการกล่าวขวัญจากคนสมัยนั้นว่าเป็นนิยายแบบใหม่หรือนวนิยายนั้น เป็นเพราะบอกาจิโอ เริ่มใช้กลวิธีการเขียนตามแบบ นวนิยายในสมัยปัจจุบันกล่าวคือ เขียนเล่าเป็นเรื่องสั้น ๆ เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ในแง่มุมต่าง ๆ อย่างสมจริง แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้อ่านเห็นว่าเรื่องราวดังกล่าวในวรรณกรรมนั้นเป็นเรื่องสมมุติไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากนี้ก็มีวิธีการเสนอเรื่องให้ยอกย้อนชวนติดตาม และมีแนวคิดกว้างขวาง มีลักษณะต่างไปจากการเขียนนิทานนิยายแต่เดิมที่มักสร้างเรื่องจากจินตนาการ และอุดมคติของผู้เขียน แต่ผู้เขียนกลับทำให้เรื่องที่อ่านนั้นดูเหมือนเป็นเรื่องจริง โดยอาศัยการเล่าเรื่องให้เป็นไปตามลำดับเหตุการณ์แล้วสะท้อนแนวคิดสำคัญของเรื่องให้สอดคล้องกับหลักปรัชญาของศาสนาเป็นต้น อย่างไรก็ตามเรื่องเดคาเมรอน ก็เป็นเรื่องต้นเค้าของการเขียนนวนิยายตะวันตกเท่านั้น ยังไม่ได้มีลักษณะเป็นนวนิยายอย่างในปัจจุบันอย่างแท้จริงนัก แต่ก็มีอิทธิพลต่อนักเขียนในยุคนั้นและยุคต่อมาด้วย เพราะหลังจากนี้เป็นต้นมา ก็มีการเขียนนวนิยายหรือเรื่องเล่าแบบใหม่ก็กลายเป็นรูปแบบวรรณกรรมอย่างใหม่ที่แพร่หลายไปทั่วยุโรป
ส่วนนิยายตามแบบฉบับปัจจุบันเกิดขึ้นดังนี้ คริสต์ศตวรรษที่ 18 ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักประพันธ์นวนิยายที่แท้จริงคนแรกของอังกฤษ คือ แดเนียล เดอโฟ (Daniel Defoe) ซึ่งแต่งเรื่อง โรบินสัน ครูโซ (Robinson Crusoe) เมื่อ ค.ศ. 1719 เรื่องที่เราได้ยินชื่อกันมานานแต่ไม่เคยได้อ่านนี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นของนิยายที่ทำให้มีมาจนถึงปัจจุบันนี้

อ้างอิง: https://www.l3nr.org/posts/413777


          นวนิยายต่างๆก็เป็นการเล่าเรื่องอย่างหนึ่งที่แต่งขึ้นมาโดยจินตนาการอาจจะมีความเป็นจริงผสมอยู่บ้างโดยแต่งขึ้นมาจากพฤติกรรมของมนุษย์ การดำเนินชีวิตมีทั้งที่เป็นเรื่องเล่ายาวๆหรือเรื่องเล่าสั้นๆโดยแต่ละคนจะมีการบรรยายเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเรื่องเล่าตามเหตุการณ์และเวลาที่เกิดขึ้นหรือเล่าย้อนอดีตตามเรื่องราวของตนเองและแต่ลำคนก็จะมีการเล่าในทำนองหรือถ้าเปรียบเป็นเสียงก็คงจะบอว่ามีการเล่าเป็นสำเนียงของตัวเองซึ่งแต่ละบุคคลก็จะไม่เหมือนกัน บ้างที่เล่าก็อาจจะมาจากเรื่องจริงของตนเองหรือคนรอบข้างและนักเขียนมักจะยึดถือและใช้ความชอบความพอใจส่วนตัวของผู้เขียนเองมาแต่งเรื่องราว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น